การเดินทางครั้งนี้เราตกลงกันว่าขอไปซึมซับเชียงใหม่จริงๆ ขอไปจมอยู่กับเวลา กับธรรมชาติ ทำความรู้จักความเป็นไป ของคนที่นี่จริงๆ เราเริ่มวางแผนเที่ยวจาก สิ่งที่สะดุดใจเราก่อน คงไม่พ้นเรื่องเกี่ยวกับผ้าและงาน craft ผ้าพื้นเมืองสวยๆที่เราเห็นกันมีที่มาจากไหน ใครเป็นคนทำ..
ตอนแรกเราตั้งใจจะไปตามหมู่บ้านต่างๆที่อยู่ไกลออกไป แต่ด้วยเวลาที่เรามีไม่มาก ทำให้เราต้องลดทอนเหลือเพียงแค่ไม่กี่ที่ แต่ละที่ก็จะอยู่ไม่ไกลตัวเมืองมาก การเดินทางในครั้งนี้เราโชคดีที่มีเพื่อนอยู่ที่นี่ คอยพาซอกแซกไปตามที่ต่างๆ ที่ไม่ได้เป็นจุดสนใจของเมืองเชียงใหม่นัก ทำให้เราได้สัมผัสกับอีกมุมนึงของเชียงใหม่ ที่ยังคงมีวิถีชีวิต ประเพณี และวัฒนธรรมที่มีกลิ่นอายของชาวพื้นเมืองอยู่มากมาย
และเราก็เดินทางมาที่ “แม่สาใหม่” หมู่บ้านชาวเขาเล็กๆ เวลาของที่นี่เหมือนกับเดินช้ากว่าปกติ ผู้คนไม่ได้เร่งรีบในการดำเนินชีวิต ค่อยเป็นค่อยไป ตามวิถีของมัน ของฝากจากที่นี่คือยิ้มทะเล้นๆจากเด็กๆ กับความน่ารักของคุณยายที่สอนเราเขียนเทียนลงบนผ้าฝ้าย ร่องรอยบนมือของคุณยายเล่าเรื่องราวในชีวิตเธอได้ชัดเจน
ความสุขธรรมดา ไม่มากไม่น้อย ของคนที่นี่ สะกิดหัวใจเราได้มองอะไรกว้างขึ้น
แม้จะไม่ได้อยู่บนดอยสูงมาก แต่ที่นี่ก็คือหมู่บ้านชาวเขาที่แท้จริง บรรยากาศของที่นี่ปกคลุมด้วยหมอกหนา ในตอนสาย ระหว่างทางที่สวยงามทำให้เราลืมเรื่องของความชัน แต่พอมาถึงหมู่บ้านแล้วกลับสวยกว่า ป่ายังคงชุ่ม อุดมสมบูรณ์ ผู้คนใช้ชีวิตแบบที่เย็บเสื้อผ้าใส่เอง ทำเครื่องเงินต่างๆใส่เอง มีเสน่ห์มากจริงๆ หากใครชอบความ craft มากๆ อยากให้มาสัมผัสกับชุมชนแห่งนี้ หมู่บ้านแม่สาใหม่
เราเห็นคุณยายสองคนกำลังก้มหน้าก้มตาทำบางอย่าง พร้อมกลิ่นควันที่ลอยมา ทำให้เราต้องรีบเดินเข้าไปดูว่าทำอะไร แล้วคุณยายเลยเสนอให้เราลองจับแท่งเหล็ก ที่ใช้ในการเขียนเทียนลงบนผ้า ก่อนจะเกิดลวดลายต่างๆ ใช้เวลานานมาก และคุณยายก็ขายให้เราในราคาที่ไม่แพง พอดูขั้นตอนการเขียน การตาก การนำไปย้อม สิ่งพวกนี้มันมีคุณค่ามากกว่าจะตีราคาจริง
และเราก็เดินทางเข้าเมือง มาที่ สบเมยอาร์ต ตั้งอยู่ที่ ต.วัดเกต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ที่นี่เป็นแหล่งงาน Craft ที่รวบรวมงานฝีมือจากชาวเขาเผากะเหรี่ยง เรามาที่นี่เพื่อดูเทกนิกต่างๆ และชุดสี ใครอยากได้แรงบันดาลใจในการทำงานต่างๆ ที่นี่ไม่ใช่แกลเลอรี่แต่เป็นร้านค้าชั้นดีที่น่ามาชมมากๆเลย
และเราก็เดินทางต่อมายังศูนย์วัฒนธรรมผ้าทอ ผ้าไหม ตรงสันกำแพง ที่นี่ไม่ได้อยู่ในแพลนที่เราคิดไว้ เกิดจากการที่เราจะไปใหม่เอี่ยมแล้วต้องผ่านตรงนี้ จุดสังเกตมองไม่ยากเลย เป็นเหมือนบ้านทรงล้านนา เข้ามาแล้วใหญ่กว่าที่คิดไว้ เราเดินเข้าไปพร้อมพูดคุยกับคนที่เฝ้าอยู่ที่นี่ ก็พบว่าไม่ค่อยมีคนไทยเข้ามา จะมีแค่คนจีนกับคนฝรั่งเศส ที่ให้ความสนใจ ตอนแรกเค้าจึงทักทายพวกเราด้วยคำว่า Hello ! ฮ่าๆ
ด้านในพร้อมให้ความรู้เรื่องหม่อนไหม มีผ้าไหมขายอยู่เยอะมาก บรรยากาศครึมๆเก่าๆ ให้ความรู้สึกชาวล้านนามาก เดินไปหลอนไปนิดหน่อยเพราะไฟริบหรี่ๆ แต่โดยรวมถือว่าน่ามาเยือน ถ้าชอบเกี่ยวกับงานผ้าจริงๆ
มีร้านกาแฟตั้งอยู่ข้างๆด้วยค่ะ ชื่อร้านใจบุญ บรรยากาศดีมาก
และอีกที่ที่เป็นทางผ่านช่นกัน เราจำชื่อไม่ได้แต่จำได้ว่าอยู่ตรงบ่อสร้าง ถ้าจะไปคือมันติดถนนใหญ่และเห็นชัดมากเพราะมันใหญ่มากกก สำหรับคนชอบงานเซรามิก ถ้วยจาน งานดีๆ ที่นี่รวบรวมไว้เยอะมากๆเลย เราใช้เวลาไปนานมาก แต่ไม่ได้ซื้ออะไร เหมือนเดินดูพวกเทกนิกและวิธีใช้สี ใครสายงานนี้ อยากให้ไปเดินดูเลยแหละ
วันนี้มีโจทย์สั้นๆว่า อยากไปสัมผัสหมอกแต่ไม่อยากไปไกลมาก ดอยสุเทพ ดอยปุย เลยเป็นตัวเลือกแรกของเรา เราคิดว่าดอยนี้อาจจะไม่ค่อยมีใครสนใจเท่าไร เพราะมันใกล้เมือง และมันคุ้นหูจนคนอาจจะมองผ่านไป แต่จริงๆแล้วบรรยากาศดีใช้ได้เลย เราไปเชียงใหม่เมื่อไร ก็ขึ้นไปทุกครั้ง เหมือนไปเก็บอากาศ ก่อนจะกลับมาเจอความเป็นจริงที่กรุงเทพ
หมู่บ้านที่เราเห็นจากจุดชมวิว ก็คือหมู่บ้านดอยปุย เราเลือกชึ้นมานั่งกินไข่ต้มตรงจุดชมวิวก่อน แล้วค่อยกลับลงไป ดอยปุยเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ไว้ตอนรับนักท่องเที่ยว มีคนขายของอยู่ทั่วไป มีเด็กที่เรียกแทนตัวเองว่ามักคุเทศน์น้อย คอยนำทาง แต่ต้องเสียตังนะ 555 เราเลยเลือกเดินเที่ยวเล่นเอง บนนี้มีอากาศที่เย็นใช้ได้เลย หมอกหนา บางครั้งก็ลอยต่ำและบางครั้งก็ฝนตก แต่ละครั้งเลยให้ความรู้สึกต่างกันออกไป
เราชอบที่จะมาอุดหนุนของชาวเขา อาจจะดูเหมือนๆกันไปหมดทุกร้านแต่เราก็ชอบนะ ซื้อกลับไปทุกครั้ง เล็กๆน้อยๆ เป็นบรรยากาศบนดอยแบบใกล้เมือง เพราะนั่งรถแค่ 20 นาทีก็ได้สัมผัสหมอกหนาแล้ว เหมือนกดหยุดบรรยากาศในตัวเมืองเชียงใหม่ไว้ เพราะมันต่างกันมาก
แล้วการเดินทางของเราก็สิ้นสุดลง เตรียมเก็บกระเป๋าไปนั่งหน้าจ๋อยที่สนามบิน ปีนี้เป็นปีที่เราได้มาเชียงใหม่บ่อยและก็มีการเที่ยวในแต่ละครั้งต่างกันออกไป สำหรับครั้งนี้เราจะรวบรวมไว้สำหรับที่ที่มีงาน Craft ที่ที่เราได้ซึมซับกับผู้คน กับชาวบ้าน ที่ที่ทำให้เวลาของเราช้าลง อาจจะไม่มีรูปค่าเฟ่ ที่พักสวยๆ การกินหรือการอยู่มารีวิว แต่ก็ถือว่าเป็นเชียงใหม่ในอีกมุมมองก็แล้วกันนะ 🙂
ใครอยากรู้ว่าดียังไง ต้องมาเยือนด้วยตัวเอง เพราะยังมีหบายภาพที่เราเลือกเก็บไว้แค่ในเมมโมรี่ หลายอย่างที่เราคงถ่ายทอดออกมาได้ไม่หมด และคงไม่ชัด เท่าคุณจะมาสัมผัสเอง