I will always love you.
ทุกครั้งเมื่อการเดินทางหนึ่งได้จบลง
เราจะยิ่งโหยหาการเดินทางครั้งใหม่
อย่างใจจดใจจ่อยิ่งกว่าครั้งก่อน
“Enjoy your youth.
You’ll never be young that
you are at this very moment.”
เราต่างแก่ขึ้นทุกลมหายใจ
ดื่มด่ำกับช่วงเวลานี้เถอะ
ไม่มีสิ่งใดจะวิเศษไปกว่า ณ ขณะนี้แล้ว
เราตกหลุมรัก หัวใจพองโต
กับทุกการเดินทางในแต่ละครั้ง
ภูเขาลูกใหญ่ ต้นไม้สีแปลกตา ถนนสายใหม่ๆ
โลกมักย้ำเราเสมอว่าดาวดวงนี้ช่างน่าทึ่ง
พิเศษ และกว้างใหญ่ขนาดไหน
มีอีกหลายที่ให้ไป มีคนมากมายที่รอให้ทำความรู้จัก
และมีความงามที่ยังรอการค้นพบ
สิ่งเหล่านี้นี่เองที่ตรึงหัวใจเรา
จนเป็นเหมือนดังการเยียวยาที่คอย
เติมพลังเล็กๆให้ชีวิตเราขับเคลื่อนไปได้
ไม่ยากเลยที่จะบอกว่า
เราหลงรักโลกนี้เข้าอีกแล้ว
ขอบคุณทุกช่วงเวลาที่ผ่านพ้นไปอย่างสวยงาม
ขอบคุณที่มีเพื่อนร่วมทาง
ที่แสนวิเศษทำให้การเดินทางครั้งนี้
ตราตรึงยากจะลืม
จนกว่าจะพบกันใหม่
รัก,
#abovethemars
—————————————-
I will always love you
When every our journey end.
We enthusiastically need the new beginning more
and more than before.
“Enjoy your youth.
You’ll never be young that
you are at this very moment.”
We grow old every single minute.
savor this moment.
There is nothing special than now.
We fall in love, our hearts grow
with every each step of journey.
The great mountain, every tree,
every new road.
This world always reminds us
that there are so many places to see,
too many things to feel.
This is such a remarkable planet.
These things that preoccupy our hearts.
As to remedies, along with
recharging our little life.
and then it is not hard to say
we have already fallen in love with this world again
Thank you every moment we have passed
through beautifully.
Thanks to perfect companions make
this wonderful journey unforgettable.
Till we meet again.
love,
#abovethemars
“ภาพของการเดินทางครั้งนี้ถูกเก็บบันทึกโดยกล้องกล้องฟิล์มเกือบทั้งหมด
ถือเป็นเมมโมรี่ที่รักมากที่สุด หวงแหนที่สุด
บางภาพสวยงามกว่าที่ตั้งใจ
บางภาพเบลอ แต่ยังคงชัดเจนในความทรงจำ”
เมื่อยิ่งเดินทางมากขึ้น ก็ยิ่งทำให้หัวใจเราเปิดกว้างมากขึ้น รู้จักตัวเองมากขึ้น เราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ทุกครั้งที่ก้าวออกจากบ้าน และแทบทั้งหมดมักจะไม่ได้มีแผนที่เป็นรูปเป็นร่างสักเท่าไหร่ เลยไม่ได้คาดหวังกับสิ่งที่จะประสบพบเจอว่าจะเป็นยังไง ด้วยเชื่อเสมอว่าคนทุกคน ทุกสถานที่ ย่อมมีความงามที่แอบซ่อนอยู่ เรานั้นต้องค้นให้พบ
การมาญี่ปุ่นครั้งนี้ก็เช่นกัน
“河口湖 , Kawaguchi-ko”
Kawaguchi-ko ; คาวากุจิโกะ ก้าวแรกที่ลงจากรถไฟ ภาพแรกที่ปะทะเข้าสายตาคือภูเขาไฟลูกใหญ่ ยอดปกคลุมไปด้วยสีขาวของหิมะ เคลือบด้วยละอองแดดของเวลาเกือบๆ 4 โมง
“Before Sunset”
Right here, Right now.
แสงสีเหลืองขณะพระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า กระทบกับผิวน้ำของทะเลสาปคาวากุจิ
เป็นรอยต่อระหว่างวันและคืน สวยเกินกว่าจะอธิบายได้เทียบของจริง
“富士山 Fuji-san”
เป็นเมืองที่มีฟูจิซังเป็นฉากหลัง ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหน
ฟูจิซังตัวจริงนั้นตัวใหญ่กว่าในภาพมาก และสวยสะจนไม่อยากที่จะละสายตา เข้าใจได้ทันทีเลยว่าทำไมภูเขาลูกนี้ถึงโดนยกให้เป็นดาวของประเทศนี้
ภาพสุดท้ายกับฟูจิซังก่อนเดินทางไป Hakone ดีใจที่ได้มาเจอกัน ขอบคุณที่เป็นส่วนนึงของการเดินทางนี้
คงได้คิดถึงบ่อยๆ จนกว่าจะมาพบกันใหม่
“I’m loving every minute of it.”
“Hakone-machi 箱根町“
Hakone ; ฮาโกเน่เป็นเมืองเล็กๆ ที่ล้อมไปด้วยภูเขาและต้นไม้ อากาศดีสูดได้สบายปอดมากๆ ตามทางเดินจะมีน้ำตกหรือธารน้ำเล็กให้เห็นอยู่ตลอด มี Art Musuem ให้เข้าเยอะอยู่ทีเดียว ถึงแม้ว่าจะห่างจากโตเกียวออกมาไม่ไกลนัก แต่กลับแตกต่างจากเมืองหลวงอยู่มาก แม้ฮาโกเน่นั้นดูจะธรรมดา เวลาก็ค่อยๆเดินไปแบบสบายๆ ไม่รู้ว่าอะไร แต่ก็หลงรักเข้าอย่างบอกไม่ถูก ทั้งสถานที่ ทั้งคนที่นี่ หากได้สบตากันเข้าให้แล้วรอยยิ้มก็จะเกิดขึ้นทันที บางครั้งก็ตามมาด้วยคำทักทาย จนกลายเป็นบทสนทนาเล็กๆ ให้ได้เพิ่มเพื่อนใหม่อีกหลายคน
“In Japan, Miyanoshita is the town that be came the forerunner of the international resort.
Please enjoy the old town that has left vestiges of good old days.”
― Hakone Hostel 1914
Hakone Hostel 1914 ; โฮสเทลสีขาว กับต้นตีนตุ๊กแกใบเขียวที่เลื้อยเกาะไปตามกำแพง เดิมทีนั้นเป็นที่ทำการไปรษณีย์มาก่อน ถึงจะเปลี่ยนมาเป็นโฮสเทลแล้ว แต่เกือบทั้งหมดก็ยังคงเค้าโครงสร้างเดิมอยู่ ถ้ารวมแล้วอายุของตึกนี่อยู่มานานเกือบร้อยปีทีเดียว ถือเป็นโฮสเทลที่ประทับใจตลอดระยะเวลาที่ได้พักที่นี่ โฮสต์น่ารัก เป็นกันเองและดูแลดีมากๆ ตั้งแต่ต้อนรับจนถึงบอกลา
คิดว่าน่าจะเป็นสูติโอถ่ายภาพเก่าแก่ที่เปิดมานาน เพราะเดินเข้าไปดูใกล้ๆ
แล้วเจอรูปคู่สมัยวัยรุ่นของคุณโยโกะ โอโนะกับจอห์น เลนนอน ที่เคยมาถ่ายภาพที่สตูดิโอนี้
‘Fujiya Beer, The Fujiya Hotel 富士屋ホテル’
Miyanoshita, Hakone
“And now here is my secret, a very simple secret: It is only with the heart that one can see rightly; what is essential is invisible to the eye.”
― Antoine de Saint Exupéry, The Little Prince
‘Le Petit Prince Museum, Hakone’
The world of The Little Prince ; พิพิธภัณฑ์เจ้าชายน้อย
เจ้าชายน้อยเป็นหนังสือที่เราหลงรัก ยกให้เป็นอันดับหนึ่งในใจตลอดเวลา และมักจะแนะนำทุกคนที่พบเจอให้อ่านเสมอ เราได้เจอพิพิธภัณฑ์เจ้าชายน้อยระหว่างเดินทางไปที่พัก เป็นความบังเอิญที่รู้สึกขอบคุณมากๆ ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เข้ามาแล้วรู้สึกอุ่นหัวใจตั้งแต่ก้าวแรกจนก้าวสุดท้าย หากได้ผ่านมาฮาโกเน่ และไม่ได้รีบร้อนจนเกินไป อยากให้ลองแวะมาหาเจ้าชายน้อย เจ้าจิ้งจอก ของคุณอ็องตวน เดอ แซ็งแตกซูว์เปรี ดูนะ
“What makes the desert beautiful,’ said the little prince,
‘is that somewhere it hides a well…”
― Antoine de Saint Exupéry, The Little Prince
‘Open Air Museum, Hakone’
Open Air Museum ; พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง
ค้นพบโดยการเดินผ่านจากสถานีรถไฟไปป้ายรถเมย์เพื่อเข้าที่พัก พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่จัดแสดงงานศิลปะของศิลปินจากทั่วโลก มีฉากเป็นท้องฟ้า ต้นไม้และภูเขา ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ภูมิทัศน์ บรรยากาศทั้งในและรอบๆ
ก็สวยจริงๆ เหมาะกับการใช้เวลาเดินเพลินๆ ได้ดีทีเดียว
“Love is the only thing that is worth while.”
― Picasso
“We take photos as a
return ticket to a moment
otherwise gone.”
― Some traveler
บางส่วนของการมาญี่ปุ่นครั้งนี้ถูกเก็บบันทึกไว้โดยภาพถ่าย เพื่อตอกย้ำว่าภาพในหัวเรานั้น มันเคยเกิดขึ้นจริงๆ
บางส่วนถูกเก็บไว้ในความทรงจำ…ซึ่งยังคงสวยงาม และชัดเจนจนถึงตอนนี้
อาจไม่ได้เก็บภาพที่สวยที่สุดเอาไว้ นั้นเพราะมนุษย์ยังไม่ค้นพบกล้องตัวไหน ที่สามารถเก็บภาพได้สวยเท่ามองด้วยตาเปล่า เรายังเก็บบรรยากาศหรือแสงแดดลงในกระป๋องไม่ได้ หรือถ้ามีเราคงเลือกที่จะโยนเทคโนโลยีนั้นทิ้งไปเสีย ..โลกจะสวยได้อย่างไร เราจะค้นพบความงามที่ซ่อนอยู่ได้ยังไง หากไม่เลือกที่จะเดินออกไปค้นหาด้วยตัวเอง เชื่อเราเถอะ มองผ่านดวงตา กับ มองผ่านจอ นั้นเทียบกันไม่ได้เลยสักน้อย
‘BIOTOP’
Orange Street, Osaka
ร้านนี้น่ารัก เหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่าง พอมีสีเขียวที่ไหน ก็พลอยจะดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที
ชามะนาวร้อนที่นี่รสชาติละมุนลิ้นมาก กลิ่นของหอมจากก้านอบเชยและใบมิ้นต์ยังติดอยู่ที่ริมฝีปาก
เหมาะเป็นแก้วแรกในการเริ่มต้นเช้าของวันที่อากาศเย็นๆ ที่สุด
ร้านแผ่นเสียงจากโอซาก้า ที่จำชื่อและที่อยู่ได้ไม่แน่นอน
จำได้เพียงเดินผ่านตึก และไปสะดุดตาที่ป้ายเล็กๆ ตั้งเหงาๆอยู่ด้านหน้าทางเข้า
ป้ายนั้นเขียนด้วยลายมือยุ่ง บอกถึงการมีอยู่ของร้านขายแผ่นเสียงนี้
เมื่อเข้าไป น่ารักใช้ได้เลย
Yanaka 谷中, Shopping Street
มาเพราะได้ยินว่าถนนเส้นนี้มีแมวเป็นเจ้าถิ่น
และนี่คือแมวตัวเดียวที่ได้เจอ พี่เค้าคงจะหนาวนิ่งเป็นหินเลย
Warmest morning, I shall miss that when we leave.
Ueno Park
“The sun is getting real low”
Daikanyama 代官山
“THE BEST JOURNEY ALWAYS TAKE US HOME.”
ในขณะที่การเดินทางครั้งนี้กำลังจบลงพร้อมกับแสงสุดท้ายของวัน
ระหว่างทางกลับบ้านก็ได้แต่นั่งคิดถึงคนที่รออยู่ว่าจะเริ่มเล่าเรื่องจากตรงไหนก่อนดี
แสงจากพระอาทิตย์ส่องผ่านกระจกเข้ามาเหมือนกับมีคนสะกิด จังหวะที่หันออกไปนั้น
ภาพที่ค่อยๆกำลังเคลื่อนผ่าน พอดีกับทำนองของเพลง Yellow ดังขึ้นมาจากหูฟัง
นี่เป็นช่วงเวลาที่เกือบลืมหายใจ ไม่แม้แต่จะกล้ากระพริบตา
เรามองตามภาพนั้นจนค่อยๆ เลื่อนลับไปจากสายตา
หันกลับมายิ้มให้กับตัวเอง เวลานี้เองที่เป็นของจริง ความรู้สึกนี้เองที่สัมผัสได้จริงๆ
เราเป็นเราได้ชัดเจนขึ้นกว่าเราเมื่อวาน
เมื่อมองจากบนนี้ โลกยิ่งย้ำว่าเรานั้นช่างตัวเล็กเสียจริง
ทุกวันได้แต่ดำเนินชีวิตไปตามข้อกำหนดของเวลาที่ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตั้งขึ้นมา
ก้มหน้าก้มตาอยู่กับตัวเลขที่ยังจับต้องไม่ได้ และคงจะน่าเศร้าหากเราได้เพียง
แต่มองโลกใบนี้ผ่านจอสี่เหลี่ยมแคบๆ
เหตุใดยังใช้เวลาอยู่กับความฝัน เมื่อชีวิตจริงนั้นจับต้องได้
ณ ขณะนี้ วันนี้มีเพียงแค่วันนี้ เรามีอยู่เพียงช่วงเวลานี้ ใช้มันให้คุ้มค่า
มีเรื่องราว และชีวิตที่เราจะยังจดจำจากนี้ไปอีกสิบปี…สิบยี่สิบปี
วันนี้เรามีเพิ่มแล้วอีกหนึ่ง
ขอบคุณตัวเองที่พาตัวเองออกเดินทาง
ขอบคุณเพื่อนร่วมทางที่ทำให้ได้มีช่วงเวลาที่งดงามเช่นนี้
เหนืออื่นใด ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะบอก
รัก,
#abovethemars
“THE BEST JOURNEY ALWAYS TAKE US HOME.”
While this journey was almost completely done the last daylight was shining warmly.
On the way back, I was thinking of people waiting for me back home
and wondered how I would start telling them about all stories
I have seen from this Journey…
The shining of sunset was sparking through the window straight to me
feeling like someone poked me to look out.
The image in front of me was moving slowly continuously.
The tune from “Yellow” was played impressively fitting to the scenery .
That moment,I was holding my breathe, trying not to blink my eyes.
Staring at the unforgettable view until it has truly gone far away out of my eyes.
I turned back and smile to myself.
“Here is the time of the reality, this feeling is so real…and this is who I am― I thought.
That moment, everything became so clear. I could clearly feel myself more than before.
I heard that travelling sometimes leads you to find some great thing.
Now I found mine…
Looking down from a bird eyes view, this world always reminds us how small we are.
Everyday we live now, our lives go by requirements of the time,
devotions on the numbers that are intangible and we sadly see this wonderful world
through a rectangular screen.
Don’t spend to much time dreaming cause you can start the real one now.
All we have is now, then make it moment count.
Live your “life” you will still remember in another ten years, twenty years from now on.
Let’s make the future “ you ” got some memorable stories.
Today I have added another one.
Thank you myself for taking this journey.
Thanks to my best companions who have made a spectacular moments.
It’s not hard to tell all above at all.
love,
#abovethemars