สำหรับเราและใครอีกหลายคนสิงคโปร์คงเป็นประเทศในตัวเลือกแรกๆ ที่เลือกในยามที่ต้องการหนีไปพักผ่อน อาจเพราะใช้เวลาเดินทางไม่นานและไม่ต้องลาหรือหยุดงานยาวก็สามารถไปเติมพลังให้ตัวเองได้ แม้ว่าสิงคโปร์จะเป็นประเทศเล็กๆ แต่ที่เที่ยวที่กินก็มีหลากหลายให้เลือก ทั้งดูงานศิลปะ สถาปัตยกรรม
ร้านอาหาร ร้านกาแฟดีๆ ก็มีเยอะแยะเลยหละ
การเดินทางมาสิงคโปร์ครั้งนี้ เราเดินทางโดยสายการบิน แอร์เอเซีย แต่ครั้งนี้พิเศษกว่าหน่อยตรงที่เราเดินทางพร้อมกับบัตรเครดิตแอร์เอเชียธนาคารกรุงเทพ ที่ใครๆ เรียกว่า บัตรเบ่ง ก็เพราะว่ามันรวมสิทธิประโ้ยชน์มากมายรวมอยู่ในบัตรเดียวกันเลย เริ่มตั้งแต่เราสามารถเช็คอินได้อย่างรวดเร็วในช่องพิเศษ แล้วกเดินขึ้นเครื่องได้ก่อนใคร มีโควต้าการนั่ง Hot seat ได้ 4 ที่นั่งต่อปี และถ้าโชว์บัตรนี้เมื่ออยู่บนเครื่องก็จะแลกน้ำดื่มมูลค่า 60 บาทได้ฟรี 1 ครั้ง ที่สำคัญจ่าย 20 บาทสามารถแลก Big point เพื่อเอาไปแลกตั๋วเครื่องบินได้อีกด้วย ยังไม่หมดนะ พอลงเครื่องก็รอรับกระเป๋าได้เร็วยิ่งขึ้น ใครที่ต้องดินทางกับแอร์เอเชียบ่อยๆ อยากแนะนำว่าคุ้มมากๆ เพราะเราใช้จ่ายในทริปนี้ด้วยบัตรเครดิตแอร์เอเชียธนาคารกรุงเทพทั้งทริปเลย เริ่มต้นจากประเทศง่ายๆ อย่างสิงคโปร์นี่แหละ ใช้เวลาเดินทางแค่สองชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงที่หมายแล้ว
แม้ว่าสิงคโปร์จะไม่ได้เต็มไปด้วยวัฒนธรรมพื้นเมือง หรือธรรมชาติที่อลังการแบบที่ไหนๆ แต่ก็เป็นประเทศที่แสดงให้เราเห็นถึงพลังในการสร้างสรรค์และการออกแบบของมนุษย์ ซึ่งสามารถนำเอาความยิ่งใหญ่และทันสมัยของสิ่งปลูกสร้างโดยไม่ลืมที่จะสอดแทรกธรรมชาติควบคู่กันไป เราเลยมองว่าความลงตัวที่น่าสนใจนี้กลายเป็นจุดเด่นหนึ่งของที่นี่ไปด้วย
วัดพระเขี้ยวแก้ว Buddha Tooth Relic Temple
วัดจีน ในย่าน China town ที่เป็นเหมือนศูนย์กลางของผู้นับถือศาสนาพุทธในสิงคโปร์ทั้งยังเป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญและน่าสนใจมากด้วย วัดนี้สร้างขึ้นตามรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์ถังในอดีต ด้านในตกแต่งด้วยพระพุทธรูปหลายปาง และรูปปั้นเทพต่างๆ โคมสีแดงที่แขวนกันเรียงรายเด่นกว่าใครเพื่อน เป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ มองแล้วสวยงามและน่าหลงไหลมาก เราเดินดูจนเพลินเลยเหมือนกัน ส่วนบริเวณรอบวัดก็คือย่านไชน่าทาวน์ ที่เป็นเหมือนแหล่งชอปปิ้งขึ้นชื่อและแหล่งของอร่อยที่ราคากำลังน่ารักเลย
สิ่งปลูกสร้างที่ดูยิ่งใหญ่ตระการตาถูกออกแบบและสร้างขึ้นควบคู่ไปกับธรรมชาติจนเกิดเป็นเสน่ห์ที่คอยดึงดูดเหล่านักท่องเที่ยวให้มาเยือนอยู่ไม่ขาดสาย
สะพานเฮนเดอร์สัน เวฟ Henderson Waves Bridge
สะพานที่มีรูปทรงขึ้นลง โค้งบิดไปมาล้อกับเกลียวคลื่น สะพานสีเทาที่ทอดตัวยาวออกไปถูกสร้างบนสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ระหว่างทางจะมีจุดพักอยู่เป็นระยะให้สามารถพักผ่อนหย่อนใจและชมทิวทัศน์ของตัวเมืองได้ผ่านมุมสูง
ตามระหว่างทางเดินจะมีที่นั่งไว้สำหรับให้ผู้คนมานั่งพักเล่น ด้านบนของสะพานจะมีกำบังที่ถูกออกแบบมาให้เป็นช่องโปร่งเป็นเว้นไว้เพื่อให้ลมและแสงอาทิตย์ผ่านเข้ามา พาดเป็นเงาลงบนพื้นไม้ที่ปูเอาไว้
ทางเดินของสะพานนี้สามารถเดินไปได้เรื่อยๆ หากใครมีเวลามากหน่อยก็เดินได้ตั้งแต่ตัวเมืองผ่านทะลุไปอีกฝั่งหนึ่งของเมืองได้เลย เส้นทางสะพานเฮนเดอร์สันเวฟนี้เหมือนเป็นเส้นเชื่อมต่อระหว่างสวนสาธารณะใหญ่ๆ สามแห่งทำให้ระหว่างทางจะมีทั้งเส้นทางศึกษาธรรมชาติ จุดชมวิว จุดส่องสัตว์ ถนนปั่นจักรยาน ในตอนกลางวันอากาศอาจจะร้อนหน่อย แต่มีตัวช่วยเป็นต้นไม้ระหว่างทางที่ออกใบเขียวและต้นใหญ่มาก ร่มรื่นมากทีเดียว
ในตึกมีต้นไม้ รอบๆ ตึกมีสวนหย่อม ผู้คนเดินผ่านไปมาภายใต้ร่มเงาของธรรมชาติและสิ่งปลูกสร้างซึ่งถูกออกแบบมาให้กลมกลืนจนเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน
คลาร์กคีย์ Clarke Quay
ท่าเรือเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนปากแม่น้ำสิงคโปร์ ปัจจุบันถือเป็นย่านที่มีผู้คนมาเที่ยวเยอะมากสุดๆ ย่านนึงเหมือนกัน เพราะที่นี่เต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่มากมาย ยิ่งเมื่อตอนที่พระอาทิตย์ใกล้จะตกดิน แทบนี้จะยิ่งทวีความคึกคักเพิ่มขึ้น ผู้คนจะเริ่มทยอยกันมาหยุดพักและนั่งชมวิวกันที่บันไดริมน้ำ เมื่ออาทิตย์จะลับขอบฟ้าแสงสว่างจากเรือกับร้านริมฝั่งก็ทยอยกันเปิดไฟหลายสีสันส่องไล่ความมืดที่มาถึง นักดนตรีเริ่มเล่นเพลงขับกล่อม เสียงผู้คนที่สนทนาเดินผ่านกันไปมา บรรยากาศทุกอย่างทำให้เราพลอยรู้สึกครื้นเครงตามไปด้วยเลย
Santosa
เซนโตซ่า หรือที่ใครหลายคนเรียกว่าเกาะมหาสนุก เพราะว่าเกาะนี้ถูกเนรมิตมาเพื่อความสนุกล้วนๆ จุดหมายของทุกคนที่มาเกาะนี้จะเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจาก Universal Studio Singapore บนเกาะนี้สร้างโดยการถมทะเล และทำหาดทรายขึ้นมาใหม่ สำหรับเราเราคิดว่ามันยิ่งใหญ่และสวยมากเลยนะ บนเกาะมีกิจกรรมเยอะแยะมากมาย โดยเรามาเริ่มจากที่นี่เลย
Hackett at Santosa
ที่นี่เหมาะกับคนที่ชอบเล่นกิจกรรมผาดโผน เพราะจะมีทั้งบันจีจัมพ์ ไต่เชือก ไต่กำแพง ส่วนตัวเราไม่ได้ลงไปเล่นด้วยตัวเอง จึงได้แค่มองดูคนอื่นๆ เล่นแทนและเดินชมความงามของทะเลโดยรอบ
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ S.E.A. Aquarium
โลกใต้ทะเลที่รวมสัตว์และสิ่งมีชีวิตใต้น้ำไว้มากมาย ที่นี่เป็นที่ที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราตัวเล็กลงไปอีกเมื่อเทียบกับขนาดของมัน ทางเดินลอดใต้อุโมงยักษ์ที่มองเห็นได้รอบทิศทาง ไม่ต่างกับเราเป็นปลาสะเอง กิจกรรมและโชว์ต่างๆ ช่วยเปิดมุมมองโลกใต้น้ำของเราให้เพิ่มขึ้น แต่ละโซนที่จัดแสดงก็น่าทึ่งทั้งนั้น สำหรับใครที่ชอบความลึกลับพิศวงของโลกใต้ทะเล เราว่าถ้าได้มาเดินอยู่ในนี้อาจจะลืมเวลาไปเลยก็ได้
โรงแรมที่อยู่ภายใน S.E.A. Aquarium
โรงแรมจำลองใต้บาดาลที่เป็นเหมือนดั่งโรงแรมในฝันของใครหลายคน
ส่วนนี่คือชั้นบนของตัวโรงแรม ก็หรูหราไม่แพ้กันเลย
Underground Crossing บันไดวนแห่ง Fort Canning Park
อุโมงค์ต้นไม้ขึ้นชื่อของสิงคโปร์ นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตแล้ว ยังเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ของสิงคโปร์ด้วยเหมือนกัน ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง บริเวณนี้ถูกใช้เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญสำหรับการรบ จึงมีทั้งป้อมปราการ บังเกอร์ป้องกันแคนนิ่งหรือ Battle Box และสิ่งก่อสร้างอีกหลายอย่างที่เป็นสิ่งยืนยันเรื่องราว ซึ่งปัจจุบันสถานที่เหล่านี้ก็ได้ถูกพัฒนาและปรับปรุงให้กลายเป็นที่ท่องเที่ยวแทน
นอกจากการใส่ใจสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติแล้ว ความรู้ก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งของสิงคโปร์ ที่นี่มีพิพิธภัณฑ์มากมาย ศูนย์ความรู้ต่างๆ ถูกจัดวางกระจายไปทั่วเมือง และมีนิทรรศการต่างๆ มากมายหมุนเวียนมาจัดแสดงให้ผู้คนได้เข้าชมอยู่ไม่ขาด
หอศิลป์แห่งชาติสิงคโปร์ National Gallery
อัญมณีด้านศิลปะของสิงคโปร์ เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเซียแทบนี้ ที่นี่รวบรวมเอาผลงานระดับชาติไปจนถึงระดับโลกจากศิลปินชาวสิงคโปร์และศิลปินต่างชาติมากมายนับชิ้นไม่ถ้วน นอกจากงานศิลปะข้างในนี้แล้ว สิ่งที่เราประทับใจมากจนต้องกลับมาเยือนที่นี่อีกก็คือ โครงสร้างและสถาปัตยกรรมของหอศิลป์แห่งนี้ ทุกมุม และรายละเอียดถูกออกแบบมาได้สวยงามสมกับเป็นหอศิลป์แห่งชาติจริงๆ
“I am just another dot in the world.”
— Yayoi Kusama
——
Curate
– A Restaurant Conceived As A Michelin –
ห้องอาหารระดับมิชลินสตาร์ ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ USS ห้องอาหารที่จะใช้คำว่าตกแต่งได้สวย ดึงดูดทั้งสายตาและน้ำย่อยของเรามากๆ อาหารที่นี่จะเสิร์ฟเป็น Courses แต่ละจานที่ยกมาวางนั้น นอกจากจะหน้าตาดีจนแทบทำให้ไม่อยากกินเพราะเสียดายแล้ว รสชาติยิ่งไม่ต้องพูดมากเพราะการันตีด้วยระดับมิชลินให้เห็นๆ กันอยู่แล้ว
Jumbo Seafood
ร้านอาหารทะเลย่าย คลาร์กคีย์ ที่แต่ละเมนูนั้นคัดมาแต่ขนาดใหญ่ยักษ์ ไม่ว่าจะเป็นปู ปลา กุ้ง รสชาติทั้งสดแต่อร่อย เมนูปูที่ปรุงมาได้อย่างพอดีฉ่ำทั้งซอสและเนื้อ ทานจนลืมลดน้ำหนักไปเลย
Le Meridien Hotel
ร้านอาหารภายในโรงแรมเมอริเดียน เราแวะทานมื้อเที่ยงกันที่นี่ เมนูที่เลือกมาดูไม่ต่างจากผัดไท หรือผัดซีอิ๋วบ้านเราเท่าไหร่ และรสชาติก็อร่อยกลมกล่อมใช้ได้เลย ช่วยเติมพลังให้มีแรงเที่ยวต่อไปอีกทั้งวัน
Equarius Hotel at resort world at santosa
สิงคโปร์ยังคงเป็นประเทศที่ถึงจะเล็กๆ แต่ก็ไม่เคยน่าเบื่อสำหรับเราเลย ทุกสิ่งทุกอย่างของเกาะเล็กๆ นี้ ไหลเวียนไปตามกาลเวลาที่ไม่ช้าและไม่เร็วไปจนถึงกลับตามไม่ทัน ผู้คนที่นี้หากได้พูดคุยกันจริงๆ แล้วจะพบเจอแต่ความเป็นมิตรและมีน้ำใจทีเดียว เราว่าสิงคโปร์เหมาะเป็นอีกหนึ่งในที่ที่จะเป็นตัวเลือกของใครหลายคนที่กำลังอยากเปลี่ยนบรรยากาศโดยที่ไม่ต้องไปไกลบ้านและไม่ต้องใช้เวลานานด้วย
จนกว่าจะพบกันใหม่
with love,
from Mars.