เธอเห็นท้องฟ้านั่นไหม
ฉันเก็บเอาไว้ให้เธอ
และจะเป็นเช่นนั้นเสมอ
ถนนสายนั้นที่ทอดยาว
มีเรื่องราวของความเป็นจริง
มีเงาไม้เอาไว้ให้พักพิง
มีให้เธอเอาไว้ยามอ่อนล้า
เธอเห็นท้องฟ้านั่นไหม
เห็นเงาของเมฆหรือเปล่า
ทะเลสีครามที่ทอดยาว
เห็นความรักฉันบ้างไหม—
เธอเห็นท้องฟ้านั่นไหม
ทริปหนีเที่ยวไปรับไอฝนฉ่ำที่เชียงใหม่ฉบับเล็กๆ
อาจจะดูธรรมดา แต่เราหลงรักหน้าฝนที่เชียงใหม่ทุกครั้ง
กลิ่นไอดิน และไอหมอกชื้นๆ ทำให้จิตที่วุ่นวายพอได้สงบและอยู่นิ่งๆ กับเค้าบ้าง
แผนของทริปนี้คือเราขึ้นไปนอนเล่นแถวๆ ตีนดอยกันสองคืน และลงมาอยู่ในเมืองต่ออีกสองคืน
ที่พวกเราเลือกไปคือหมู่บ้านแม่กำปอง เพราะอยากเอาปอดไปเติมอากาศบริสุทธิ์
นอนฟังเสียงฝนกระทบใบไม้ และถูกรายล้อมไปด้วยป่าเขียว
หรือที่จริงการไปเที่ยวครั้งนี้เราแทบไม่ได้ทำอะไร นอกจากกินและนอนเลย
พูดคุยเรื่องนู้นเรื่องนี้กับเพื่อน ตกกลางคืนก็นั่งล้อมวงดีดกีต้าร์ เล่นอูโน่
แต่เป็นช่วงเวลาที่เรียกได้ว่า สบายใจ มาเพื่อปล่อยใจปล่อยตัวที่แท้
ไม่คิดอะไรเยอะ อยากไปที่ไหนก็ไปถ้าเวลาอำนวย อยากกินอะไรก็กิน
ขับรถเปิดหน้าต่าง ให้ลมเย็นพัดเข้ามาปะทะหน้า
พร้อมกับลิสเพลงเก่าของวงพอส, ธีร์ ไชยเดช, พี่เบิร์ด ธงไชย
หากเราต้องจากกัน จากกันด้วยเหตุใด
เก็บความคิดที่คล้ายกัน กับความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันนั้นไว้หากวันไหนที่เธอ เกิดเจอะเจอทุกข์ภัย
หากเธอนั้นเดือดร้อนใจ จะเป็นเรื่องใดที่ทำให้เธอท้อแท้ขอเพียงแต่เขียนมา ขอเพียงส่งเสียงมา จะไปหาจะไปในทันใด จะไปยืนเคียงข้างเธอ
ไปอยู่ดูแลเป็นเพื่อนเธอ ให้เธอหมดความกังวลใจ
จะไปในทันใด จะตรงไปจะใกล้ไกล
หากเป็นเธอจะรีบไป ให้เธอได้ความสบายใจ—
ด้วยรักและผูกพัน
‘ Jing Jai Market ตลาดนัดจริงใจ ‘
แต่ก่อนจะออกจากตัวเมือง ขึ้นเขากันพวกเราแวะกันไปที่ตลาดจริงใจกันก่อนในตอนสาย
ตลาดนัดใต้ต้นไม้ใหญ่ ที่ขายของทำมือ งานศิลปะ เสื้อผ้าไปจนถึงของตกแต่งบ้าน
และอาหารเมือง ผักผลไม้แบบฉบับปลอดภัย เพราะเป็นออแกนิค รสชาติอร่อย
และที่ตลาดจริงใจ เค้ารณรงค์งดการใช้ถุงหรือผลิตภัฑณ์ที่ทำจากพลาสติกให้มากที่สุดอีกด้วย
หลังจากเดินเล่นที่ตลาดจริงใจ ได้ของติดไม้ติดมือกันมาเรียบร้อยแล้ว
เราก็หามือกลางวันรองท้องกัน ที่ร้านข้าวซอยลุงประกิต
ที่เราตามรอยมาจาก Phill (Somebody Feed Phill) ตอนที่มาเชียงใหม่
‘ ข้าวซอยลุงประกิต ‘
กลายเป็นข้าวซอยรสเด็ดเจ้าใหม่ของพวกเรา
กลิ่นหอมของเครื่องแกง รสชาติเข้มข้นเผ็ดร้อนกำลังดี
ทั้งเนื้อและไก่ถูกเคี้ยวมาจนรสชาติของแกงซึมเข้าเนื้อ นุ่มอร่อย
ให้เครื่องเยอะ และราคาก็ไม่แพงเลย
หลังจากอิ่มท้องกันทุกคนแล้ว เราก็กระโดดขึ้นรถ เปิดเพลงไทยยุค 90s
และมุ่งหน้าสู่อำเภอแม่ออนกัน
วิวสองข้างทางเปลี่ยนจากถนนคอนกรีต ตึกอาคาร เป็น
ถนนเส้นแคบลงและขนาบสองฝั่งไปด้วยต้นไม้สีเขียว
ทางเริ่มคดเคี้ยว สูงขึ้นไปบนภูเขา ไอเย็นจากป่าพัดเข้ามาสู่ในรถ
ฉันและเธอจะเดินไปด้วยกัน
ไม่ว่าจะทุกข์หรือว่าจะสุขสันต์ ฉันจะมีเธอข้างกาย
วันเวลาจะนานสักเพียงไหน เพื่อนฉันคนนี้นั้นไม่มีวันห่าง
และไม่มีวันจากไปไหน—
ข้อความ
แม่กำปอง, เชียงใหม่
ครั้งนี้เราเลือกใช้เวลาที่เชียงใหม่ด้วยการ
ขึ้นไปยังแม่กำปองหมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ในอำเภอแม่ออน
ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่มาประมาณเกือบสองชั่วโมง
ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา ที่บ้านเรือนตั้งเรียงรายไปตามเนินสูง
ผู้คนน่ารัก ยิ้มง่าย อากาศดีกับปอดเพราะต้นไม้เยอะ อาหารอร่อย
และเวลาของแม่กำปองดูจะเดินไปอย่างเอื่อยๆ ไม่รีบร้อน
วิถีชีวิตที่สุขแบบเรียบง่ายหาได้ที่นี่
ลำธารสายเล็กๆ ที่ไหลผ่านหมู่บ้าน
คอยเอาความเย็นสบายมาให้คนที่นี่
ตกกลางคืนถ้าไม่ได้ยินเสียงฝนพร่ำ
ก็จะได้ยินเสียงน้ำตกไหลกล่อมจนหลับไป
ไข่ป่าม และหมูย่างร้อนๆ ริมถนน เป็นอะไรที่เรียกความหิวได้ดีมากๆ
เราพักที่แม่กำปองกันสองคืน
คืนแรกเราฝากตัวนอนกันที่ บ้านเพียรหวน
โฮมสเตย์น่ารักทั้งการตกแต่ง ไปจนถึงเจ้าของและพี่ปอผู้เป็นคนดูแลที่นี่
ห้องนอน ติดกับระเบียงยืนออกไปมองเห็นหมู่บ้านที่โอบล้อมด้วยป่าเขาเขียวขจี
อาหารเช้าฝีมือพี่ปอที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้ตรงระเบียงหน้าห้องอย่างน่ารัก
แบบว่าตื่นแล้วเดินออกจากห้องมาสองก้าวก็ทานได้เลย
เราออกจากที่พัก นั่งเล่นที่ร้านกาแฟสักพัก และก็ขึ้นไปยังจุดชมวิวกิ่วฝิ่น
ด้วยความที่เป็นหน้าฝน ต้นไม้ใบหญ้าต่างแตกกิ่งออกใบเขียวชอุ่ม
แม้จะเป็นเวลาสายมาแล้วแต่ด้วยความชื้นของฤดูกาลทำให้น้ำค้างยังคงเกาะอยู่ตามยอดหญ้า
เวลาได้พาตัวเองมาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ทั้งตัวทั้งใจเราเย็น สงบและสบายขึ้นอย่างบอกไม่ถูก
สูดหายใจได้สุดปอด มันจริงอย่างที่พูดกันว่าต้นไม้คือลมหายใจ
ธรรมชาติเล็ก
แม่กำปอง
คืนที่สองเราพักกันที่บ้านของลุงปุ๊ด — ป้าเป็ง
โฮมสเตย์น่ารักๆ ห้องนอนติดกับลำธาร ได้ยินเสียงน้ำไหลคลอมาเบาๆ
ยิ่งเวลาฝนตกอุณหภูมิของอากาศที่ลดลง เราจะได้ไอเย็นๆ ของฝนพัดมาตามลมเข้ามา
อยากจะลืมใครสักคน
เมื่อหยาดฝนพร่างพรมพริ้วมา
สายน้ำที่ร่วงหล่น
ปนเคล้าหยาดน้ำตากลับไปคิดถึงครา
แรกที่เราพบกัน—
ฝน
ตกเย็นเราจะฝากท้องกันที่ร้านหมูกะทะ หรือไม่ก็จิ้มจุ่ม
มื้อธรรมดาที่อร่อยเพราะคนสนทนาร่วมวงด้วย
คุยกันตั้งแต่เรื่องจริงจังของชีวิตและปัญหาของคนรุ่นๆ เรา ไปจนเรื่องไม่มีสาระ
ไม่มีแก่นก็ยังนั่งคุยกันได้หลายชั่วโมง ซึ่งแค่นี้ก็เพียงพอแล้วแหละ
เพราะจริงๆ แล้วรสชาติอาหารไม่สำคัญเท่ากับบรรยากาศและคนที่เรานั่งกินอยู่ด้วย
บรรยากาศยามเย็นของแม่กำปอง
ปลายฟ้า แค่หลับตาลง คงพบกัน
โอบกอดดวงใจ สายสัมพันธ์
ท่ามกลางความฝัน ของเรา
ดาวน้อย โปรดลอยมาลง ตรงหัวใจ
เก็บเกี่ยวความคิดถึงฉันไป
ให้เธอที่ปลายฟ้าไกล
คิดถึงเพียงเธอ
ในใจฉันคิดถึงเพียงเธอ
ไม่มีคำใด จะแทนจิตใจ
มากมายเท่าคำนี้เลย—
ปลายฟ้า
เวลาสองคืน สามวันที่เหมือนจะช้า แต่กลับผ่านไปไวเหมือนกัน
เราบอกลาแม่กำปองเพื่อกลับเข้าสู่ตัวเมือง
เรานอนพักกันที่ The Lab Poshtel & Across The Universe Cafe
เพราะจะได้เดินเที่ยวเล่นแถวนิมมานได้
เราไปคาเฟ่ต่างๆ ร้านขายของเก่า ของกุ๊กกิ๊กอย่าง Jibberish
และ Maiiam museum of contemporary art
‘ The Lab Poshtel & Across The Universe Cafe ‘
ที่พักคืนสุดท้ายของพวกเรา
เราได้รับการต้อนรับที่น่ารัก ดูแลเป็นอย่างดีจากพี่เจ้าของ และทุกคนที่นั่น
จากที่ชอบการออกแบบ และตกแต่งไว้อย่างสวยงามเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
พอได้มานอนกลายเป็นว่าเราหลงรักโฮเทลที่นี่เข้าไปเต็มๆ เลย
โซนคาเฟ่ด้านหน้า ส่วนกลางที่จัดไว้ให้นั่งเล่น
ร้าน A Day In Life ที่เป็นร้าน Selected Shop ที่คัดของมาอย่างดี
จนเราได้ของติดกลับบ้านมาด้วยหลายชิ้นเลย
Words are flowing out
like endless rain into a paper cup
they slither wildly as they slip awayacross the universe
pools of sorrow waves of joy
are drifting through my opened mind
possessing and caressing meJai Guru Deva, Om
nothing’s gonna change my world
nothing’s gonna change my world
nothing’s gonna change my world
nothing’s gonna change my world—Across The Universe



Chiang Mai
‘ MAIIAM Contemporary Art Museum ‘
พิพิธภัณฑ์ใหม่เอี่ยม คือพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย
เรามาครั้งนี้เพื่อดูงานแสดงชุด
TEMPORAL TOPOGRAPHY: MAIIAM’S NEW ACQUISITIONS;
FROM 2010 TO PRESENT
นิทรรศการที่รวบรวมผลงานจากศิลปินแถบเอเชียมาไว้มากกว่า 10 คน
โดยรวมของผลงานในการจัดแสดงนี้พูดเกี่ยวกับอาณาเขตแดนความเป็นเมือง
ความขัดแย้งและความรุนแรง รวมถึงนัยยะการปกครองและการต่อต้าน
ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ที่เฉพาะเจาะจง
และแนวคิดเหล่านี้ยังพูดโยงไปถึงกับความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกันระหว่างสถานที่และตัวตน
การของทำงานของศิลปินที่สื่อให้เห็นความแตกต่างระหว่างส่วนรวมและส่วนบุคคล
งานนี้จัดถึง 30 มีนาคม 2020 ที่ Gallery 1
เป็นนิทรรศการที่ดีมาก หากใครได้มีโอกาสมาเชียงใหม่ เราแนะนำให้แวะไปดู
เพราะนอกจากนิทรรศการหมุนเวียนอย่าง Temporal topography
ยังมีงานแสดงถาวรอื่นๆ ให้ดูด้วยเหมือนกัน
มีงานแสดงของพี่วิ Viriya Chotpanyavisut
ส่วนตัวเราติดตามผลงานของเค้าอยู่แล้ว ดีใจเล็กๆ ที่ได้มาเจองานจริงที่นี่ด้วย
‘ Jibberrish ‘
จิ๊บ — เบอ — หริด
เราเคยมาที่นี่เมื่อสองปีที่แล้ว บรรยากาศยังคงอบอุ่นน่ารักเหมือนเดิม
ที่นี่คือร้านขายของทำมือ ที่เกิดจากความหลงใหลและชื่นชอบ
สิ่งของประเภท Homemade และงาน Craft
อย่างผ้าย้อมครามจากสีธรรมชาติ และนอกจากนี้ยังมีของกระจุกกระจกอย่างพวกงานถัก
เครื่องประดับ เครื่องเขียน และงานเซรามิก
แอบตั้งใจมาหาจำเนียรแมวประจำร้านที่เราเคยเจอ
แต่ว่าพี่ที่ร้านบอกว่านางหนีไปดาวแมวสะแล้ว
เลยได้มาเจอกับส้ม และชาวแก๊งสีเทาแทน
หลังจากออกมาจาก Jibberrish เวลาเราเหลืออีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาขึ้นเครื่อง
เพื่อนเราที่เป็นคนเชียงใหม่ เลยอาสาขับรถขึ้นไปดูพระอาทิตย์ตกที่ดอยสุเทพ
เป็นการบอกลาทริปนี้ก่อนกลับสู่ชีวิตจริงที่กรุงเทพฯ เพราะคงอีกพักใหญ่กว่าจะได้เห็นภาพแบบนี้อีกที
ก็นะ เมืองหลวงบ้านเราไม่มีแบบนี้นี่หน่า
เราคอยจนพระอาทิตย์ลับไปหลังภูเขาเบื้องหน้า
ท้องฟ้าถูกฉาบสีไปเป็นส้มอร่าม หมดเวลาของวันนี้และการพักผ่อนของพวกเราแล้ว
ขับรถมุ่งตรงไปยังสนามบินด้วยความแอบเศร้าในใจเล็กๆ
เวลาแห่งความสุขมันหมดไปไวแบบนี้นี่เอง
สุดท้ายแล้ว สนุกมาก หัวเราะท้องแข็งทุกคืน
กินอร่อย หลับสบาย ได้เติมพลังกับไปสู้กับงานแล้ว
หากจะขาดก็คงมีอย่างเดียวคือ มาริษา ปกติมาเชียงใหม่ทีไร
ต้องมีอีฟมาด้วย แต่ครั้งนี้เวลาดันไม่ตรงกันก็เลยอดเลย
แต่ไม่เป็นไร ไว้มาด้วยกันใหม่นะ ครั้งนี้เที่ยวเผื่อไปแล้ว
film : fuji premium400 / fuji provia100F / fuji provia100F
แล้วจะกลับไปใหม่เมื่อต้นลมหนาวมาเยือน
ด้วยรักและคิดถึง
ฝากหัวใจให้กันเอาไว้ก่อน
ที่เราจะต้องห่างเหินไป
เพื่อว่าเราลำบาก อยู่หนใด
หัวใจก็ยังมีคนดูแล
อาจจะมีบางคราวเราพบใครใหม่
เกิดหวั่นไหวไปตามประสาคนไกลกัน
แต่เรายังมีใจกันไว้ไม่หวาดหวั่น
จะไม่เหลือดวงใจที่คิดเผื่อใคร
สิ่งที่ฉันต้องการก็คือให้เราคอยดูเสมอ
หากเราเผลอลืมไปแล้วดวงใจจะหาย
หมั่นคอยดูแลและรักษาดวงใจ
เก็บเอาไว้จนวันที่ฉันเคียงคู่เธอ—
หมั่นคอยดูแลและรักษาดวงใจ